นายจ้างสนับสนุนเต็มที่ เมื่อมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

25 พฤษภาคม 2566
อ่าน 4 นาที



เมื่อนายจ้างใจดีได้ตัดสินใจจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ลูกจ้าง หลังจากที่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งต่อตัว
นายจ้างและลูกจ้าง และสำรวจความพร้อมสำหรับขั้นตอนต่าง ๆ ในการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว (อ่านบทความ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นายจ้างให้ นายจ้างได้” และ “นับหนึ่งถึงเจ็ด จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้”)  นายจ้างอาจต้องการรู้ว่า หลังจากที่ตัดสินใจจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว จะต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบใดบ้าง มาหาคำตอบกันในบทความนี้

1. จ่ายค่าธรรมเนียมการจัดตั้งกองทุน
ค่าธรรมเนียมการจัดตั้งกองทุน (initial fee) เป็นค่าใช้จ่ายของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน
ที่นายจ้างต้องรับผิดชอบและจ่ายเพียงครั้งเดียว โดยสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมดังกล่าวกับบริษัทจัดการ
ที่จะจัดตั้งกองทุนด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดำเนินกิจการของกองทุนที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับ
ข้อตกลงว่าจะเป็นความรับผิดชอบของกองทุนหรือนายจ้างหรือบริษัทจัดการ เช่น ค่าผู้สอบบัญชี (auditor
fee) และค่าทะเบียนสมาชิก (registrar fee) เป็นต้น

2. จ่ายเงินสมทบและรวบรวมเงินเข้ากองทุน
ตามกฎหมายแล้ว นายจ้างสามารถส่งเงินสมทบและสมาชิกสามารถส่งเงินสะสมได้ตั้งแต่ 2%-15% ของค่าจ้าง
สมาชิก แต่จะเป็นจำนวนเท่าไรนั้นขึ้นกับข้อบังคับกองทุนของตน ซึ่งนายจ้างและสมาชิกไม่จำเป็นต้องส่งใน
อัตราส่วนที่เท่ากัน เช่น





​โดยนายจ้างต้องรวบรวมเงินสมทบและเงินสะสมทุกเดือนส่งเข้ากองทุนภายใน 3 วันทำการนับตั้งแต่วันจ่าย
ค่าจ้างอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้โดนค่าปรับหากนายจ้างไม่สามารถส่งเงินได้ตามระยะเวลาที่กำหนด

3. สนับสนุนคณะกรรมการกองทุน (Fund Committee - FC)
FC เป็นตัวแทนของลูกจ้างและนายจ้างที่ช่วยดูแลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่กองทุน มี
หน้าที่เลือกนโยบายการลงทุน คัดเลือกบริษัทจัดการ ติดตามการลงทุน และให้ความรู้สมาชิก หากนายจ้าง
สนับสนุนการทำงานของ FC ก็ย่อมทำให้การบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในภาพรวมเป็นไปอย่าง
ราบรื่นเช่นกัน โดยตัวอย่างเรื่องที่นายจ้างสนับสนุน เช่น
  • ​งบประมาณประชาสัมพันธ์เรื่องราวสำคัญที่เป็นประโยชน์แก่สมาชิก อาทิ การส่งเสริมให้สมาชิกส่งเงินสะสมมากขึ้น การส่งเสริมให้ FC และบริษัทจัดการให้ความรู้สมาชิกให้เลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับตน
  • การวิเคราะห์ปัญหาการไม่สมัครเป็นสมาชิกกองทุน
  • การสนับสนุนให้ FC ศึกษาความรู้เพิ่มเติมเพื่อประโยชน์สูงสุดของกองทุน
จะเห็นได้ว่า ภายหลังจากนายจ้างใจดีตัดสินใจจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว ไม่ได้จบลง ณ จุดตัดสินใจ
แต่นายจ้างยังเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จัดตั้งขึ้นมาแล้ว เดินทางไปพร้อมกับ
สมาชิกจนถึงจุดหมายปลายทาง ดังนั้น เพื่อให้เครื่องมือการออมเพื่อการเกษียณอย่างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ไปถึงจุดนั้นอย่างราบรื่น นายจ้างจึงเป็นแรงผลักดันและสนับสนุนเบื้องหลังอย่างแท้จริง

หากนายจ้างท่านใดต้องการศึกษารายละเอียดด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฝั่งนายจ้างเพิ่มเติม สามารถคลิก
ได้ที่ลิงก์ https://www.thaipvd.com/Employer/Index

                                                 **************************
อ้างอิงจากบทความ "นายจ้างสนับสนุนเต็มที่ เมื่อมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" โดยนางสาวสาริกา อภิวรรธกกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมความรู้ตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียน ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของสำนักงาน ก.ล.ต.